มะยงชิด ผลไม้ยอดฮิต วิตามินสูงเว่อร์
พอเข้าหน้าร้อนอย่างเป็นทางการ หลายคนคงเริ่มมองหา “มะยงชิด” ผลไม้ยอดฮิตในฤดูกาลนี้มากินดับร้อนกันแล้ว แม้ว่ามะยงชิดจะเป็นผลไม้ร่วมสายพันธุ์เดียวกับมะปราง แต่มะยงชิดมีรสชาติหวานฉ่ำและอมเปรี้ยวนิด ๆ ยางไม่เยอะจึงกินง่ายไม่ระคายคอเหมือนมะปราง ทำให้มะยงชิดเป็นผลไม้ลูกรักประจำฤดูที่ถูกนำไปเป็นวัตถุดิบหลักของเมนูขนมมากมาย ทั้งลอยแก้ว เบเกอรี่ หรือจะปอกเปลือกกินสด ๆ ก็น่ากินไปหมด นอกจากเรื่องรสชาติที่อร่อยถูกปากแล้ว มะยงชิดยังมีประโยชน์และสรรพคุณที่ดีต่อร่างกายมากกว่าที่คิด

มะยงชิด อร่อยดี มีประโยชน์
เรื่องรสชาติว่าเริ่ดแล้ว สรรพคุณของมะยงชิดคงต้องให้ยิ่งกว่า เพราะในมะยงชิดมีวิตามินและเกลือแร่ที่ดีต่อร่างกายมากมาย เห็นลูกเล็ก ๆ แบบนี้แต่ประโยชน์แน่นเกินตัวมาก มาดูกันว่ามะยงชิดให้ประโยชน์อะไรต่อร่างกายของเราบ้าง
- เบต้าแคโรทีนสูง ต้านอนุมูลอิสระ : มะยงชิดมีเบต้าแคโรทีนสูง ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระช่วยในการกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายให้แข็งแรง ลดความเสี่ยงที่ก่อเกิดโรคมะเร็ง และยังช่วยให้ผิวพรรณเต่งตึง สดใส
- วิตามินเอ ช่วยบำรุงสายตา : เมื่อร่างกายได้รับเบต้าแคโรทีนแล้วจะเปลี่ยนให้เป็นวิตามินเอ ทำให้มะยงชิดอุดมไปด้วยวิตามินเอซึ่งมีคุณสมบัติช่วยบำรุงสายตา ลดความเสื่อมของเซลล์ลูกตาและโอกาสการเกิดต้อกระจกเมื่อมีอายุมากขึ้นได้
- วิตามินซี เสริมภูมิต้านทาน : วิตามินซีจะช่วยบำรุงระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายให้ดียิ่งขึ้น ไม่ให้เจ็บป่วยง่าย และยังป้องกันเลือดออกตามไรฟันอีกด้วย
- แคลเซียมและฟอสฟอรัส ลดความเสี่ยงโรคกระดูก : มะยงชิดมีแคลเซียมและฟอสฟอรัสอยู่ด้วย ซึ่งสารอาหารทั้ง 2 อย่างนี้มีความสำคัญต่อกระดูกมาก ๆ เพราะช่วยบำรุงให้กระดูกและฟันของเราแข็งแรง ช่วยลดความเสี่ยงโรคกระดูกพรุนและกระดูกเสื่อมได้
นอกจากนี้ มะยงชิดยังมีวิตามินและสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายอีกมาก เช่น โซเดียม โพแทสเซียม แมกนีเซียม เหล็ก สังกะสี ไอโอดีน ใยอาหาร เป็นต้น

มะยงชิด กินเพลินระวังน้ำตาลสูง
ถึงแม้ว่ามะยงชิดจะมีคุณค่าทางโภชนาการมากมาย ทั้งวิตามินและเกลือแร่ที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย แต่ถ้าเรากินเพลินจนเกินไป น้ำตาลอาจจะพุ่งได้ เพราะมะยงชิด 100 กรัม หรือประมาณ 3 ผล ให้น้ำตาล 13 กรัม หรือ 3.3 ช้อนชาเลยทีเดียว ซึ่งปริมาณน้ำตาลที่เหมาะสมต่อวันนั้น ควรได้รับไม่เกิน 24 กรัม หรือ 6 ช้อนชา ส่วนเด็กและผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป ควรได้รับไม่เกิน 16 กรัม หรือ 4 ช้อนชา ถึงจะอร่อยแค่ไหน แต่ถ้าไม่ยั้งใจและกินมะยงชิดมากไป ระวังค่าน้ำตาลสูง สุขภาพเสียและเสี่ยงป่วยเป็นโรคในภายหลังได้
นอกจากมะยงชิดที่อร่อยแล้ว ผลไม้หน้าร้อนอื่น ๆ ก็อร่อยไม่แพ้กัน ไปดูกันดีกว่าว่าผลไม้แต่ละอย่างในปริมาณต่าง ๆ จะมีน้ำตาลสูงเท่าไหร่ เผื่อจะได้ระมัดระวังตอนกินกันมากขึ้น
- มังคุด 4 ผล ให้น้ำตาล 2.8 ช้อนชา
- สับปะรดภูแล 6 ชิ้นคำ ให้น้ำตาล 1.9 ช้อนชา
- แตงโมกินรี 8 ชิ้นคำ ให้น้ำตาล 3.4 ช้อนชา
- ทุเรียนหมอนทอง ½ เม็ดกลาง ให้น้ำตาล 2.1 ช้อนชา
- มะม่วงอกร่อง ½ ผล ให้น้ำตาล 2.7 ช้อนชา
มะยงชิดมีประโยชน์หลากหลาย แต่เราจำเป็นต้องกินอย่างระมัดระวัง เพราะในนั้นมีความหวานที่ซ่อนน้ำตาลเอาไว้ อาจเสี่ยงเจ็บป่วยเป็นโรคต่าง ๆ ในภายหลังได้ เช่น โรคอ้วน เบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจและหลอดเลือด เป็นต้น
ถ้าไม่อยากเจ็บป่วย เราก็ต้องดูแลสุขภาพของตัวเองตั้งแต่เริ่มต้น พร้อมหาผู้ช่วยเรื่องสุขภาพด้วยการเสริมความมั่นใจด้วยประกันสุขภาพแบบเหมาจ่าย จากเมืองไทยประกันชีวิต คุ้มครองโรคอุบัติใหม่ โรคเก่าที่วนกลับมาใหม่ โรคระบาด โรคร้ายแรง และโรคทั่วไป วงเงินเลือกได้ตั้งแต่ 200,000 บาท ถึง 100,000,000 บาท อายุรับประกันสูงสุด 80 ปี ดูแลต่อเนื่องยาว ๆ สูงสุดถึงอายุ 99 ปี* ลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 25,000 บาทต่อปี
*เฉพาะสัญญาเพิ่มเติมการประกันภัยสุขภาพแบบ อีลิท เฮลท์ และ ดี เฮลท์
- ความคุ้มครองของสัญญาเพิ่มเติมต้องไม่เกินระยะเวลาเอาประกันภัยของกรมธรรม์ประกันชีวิตที่สัญญาเพิ่มเติมนี้แนบท้าย
- เบี้ยประกันภัยสามารถนำไปใช้สิทธิหักลดหย่อนภาษีได้ ทั้งนี้ หลักเกณฑ์เป็นไปตามที่กรมสรรพากร กำหนด
- การพิจารณารับประกันเป็นไปตามหลักเกณฑ์ของบริษัทฯ
- โปรดศึกษารายละเอียดความคุ้มครอง เงื่อนไขและข้อยกเว้น ก่อนตัดสินใจทำประกันภัย
ที่มา : สืบค้นเมื่อวันที่ 03/03/65
🔖 สำนักโภชนาการ กรมอนามัย
🔖 สถาบันค้นคว้าและพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหาร มก.
🔖 mgronline (ข้อมูล ณ วันที่ 19/03/58)
🔖 คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ม.มหิดล (ข้อมูล ณ วันที่ 21/10/63)